วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดอยแม่สลอง (เที่ยวเชียงรายหน้าหนาว)

สวัสดีแม่สลอง...

            เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในชุมชนชาวจีน ตามนอกเมือง บรรยากาศของที่นี่ทำให้พวกเราหลงอยู่ในความเป็นเอกลักษณ์ ความสงบ อากาศบริสุทธิ์วิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย นักท่องเที่ยวไม่มากจนแย่งกันหายใจ มาครับมาชมบรรยากาศที่เราเก็บมาฝาก ผ่านภาพถ่ายไปด้วยกัน
หลักกิโลเมตรที่ใหญ๋ที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่นี่นะ
ทุกคนที่มาถึง เหมือนเป็นธรรมเนียมนะ ต้องมาเก็บรูปที่ระรึกกับหลักกิโลเมตรที่นี่ ก่อนไปเช็คอินที่อื่นต่อ



   มาดูที่พักของพวกเรากันก่อน "บ้านหอมหมื่นลี้" บรรยากาศเหมือนคุณไปเที่ยวเมืองจีนอะไรงั้นเลย ช่วงเย็นหน้าระเบียงห้องพักเรา เห็นทิวเขา พระอาทิตย์ตกดิน สวยงามเป็นแสงสีทอง ก่อนฟ้าจะมืด จะมีหมอกจางๆ ลอยมาให้สัมผัสกับความสงบ ผ่อนคลาย





ที่พักของเรา "บ้านหอมหมึ่นลี้" ดอยแม่สลอง



  ผมถ่ายภาพนี่ ตอนผมนอนอยู่บนเตียง แค่ลืมตาขึ้นมาก็จะได้วิวแบบนี้เลย มันดีงามสุดๆ ถ้าใครอยากมาพักผ่อนแบบประมาณพักร่าง ตัดขาดออกจากสังคมอันวุ่นวาย แนะนำเลยที่นี่ดีมากๆ
ช่วงใกล้ๆ่ค่ำ บรรยากาศก็จะเป็นประมาณสงบๆ นกบินกลับรังนอนเป็นฝูงๆ





 



   





ถ่ายที่หน้ารีสอร์ท มีน้องหมารับแขกตัวสีดำอ้วนพลี คอยต้อนรับเรา อากาศหนาวๆ ได้รับแดดอ่อนๆตอนเช้า ช่วยให้เราอุ่นขึ้นได้เยอะเลย


มื้อเช้าของที่พัก เสริฟน้ำเต้าหู้ กาแฟ ปลาท่องโก๋ หรือจะกินก๋วยเตี๋ยวยูนานก็ได้ เสริฟตลอดมีทั้งแบบ แห้ง แบบน้ำตามใจสั่ง อร่อยครับ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม



หน้าที่พัก  มีชาวเขามาขายของที่ระลึก แม่อุ๊ยจัดชุดพื้นเมืองแบบเต็มยศคอยบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป

ที่นี่เค้ามีสินค้าพวกเครื่องเงิน เชือกถัก สวยๆน่ารักๆ

   




       บรรยากาศตลาดเช้าดอยแม่สลอง ก็จะเป็นสินค้าพวก ถั่วชนิดต่างๆ ฮาเซสนัท วอลนัท แมคคาเดเมี่ย อาหาร ขนม ราคาคุยกับคนขายได้ ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงเวอร์ แต่ก็ไม่ถูกหรอกนะ

                                                 
                                                           
             ขนมที่วางขายในร้านส่วนใหญ่เป็นขนมที่นำเข้ามาจากจีน พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ก็เป็นลูกหลานชาวจีน ที่เมื่อก่อนบรรพบุรุษเป็นทหารจีนที่มารบ พอสงครามสงบก็ได้ได้กลับประเทศ นายหลวงรัชกาลที่9 ทรงพระมหากรุณาให้อยู่อาศัยบนดอยแม่สลองแห่งนี้ จนมีลูกหลานสืบกันมาจนถึงปัจจุบัน และได้สัญชาติไทย

             เมนุนี้ต้องยืนกันกันที่หน้าเตากันเลย กับเมนู หมูดอยย่าง หมูดอยก็จะเป็นหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ตัวไม่ใหญ่เหมือนหมูในฟาร์มนะ ตัวจะย่อมๆสีจะเป็นเหมือนวัวนมอะ สีดำสลับขาวบ้าง สีดำล้วนบ้าง เนื้อก็จะเหนี่ยวกว่าหน่อย แต่ไม่มันเลี่ยน กินกับน้ำจิ้มหมาล่า เข้ากันมากมาย

                           หลังจากที่เรายืนกันอยู่ซักพัก สรุปว่ากินกันจนพ่อค้าปิ้งไม่ทันพวกเรา


   





       เรื่องสำรวจตลาดต้องไว้ใจคุณนายผม เค้าเล็งทุกสิ่ง แต่ที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นขนม ผักพื้นเมืองเราคงไม่ได้ซื้อไปทำกินหรอกครับ เราต้องอยู่เที่ยวอีกหลายวัน
              ร้านอาหาร "ผิง ผิง" ฝากท้องกันร้านนี้แหละครับ จริงๆมีร้านนึงดังมากนะที่นี่คือ ร้านนายพล แต่เราประหยัดงบประมาณกัน ที่นี่ก็ได้อร่อย จานใหญ่ ได้เยอะ

           มาดอยแม่สลอง ถ้าไม่ได้กินอาหารต้นตำหรับก็คงคุยกะใครไม่รู้เรื่องแน่ๆ พวกเราก็จัดไป1ชุด กับ ขาหมูหมั่นโถว

หมั่นโถวที่นี่เค้าเป็นแป้งนุ่มๆ ไม่ได้เป็นก้อนกลมๆเหมือนในเซเว่นนะ ลักษณะจะเป็นแป้งเอามาพันกันเป็นก้อนกลม แปลกตาดี รสชาติก็จะจืดๆ แต่จะเหนียวนุ่ม สรุป อร่อย


ขาหมูหมั่นโถว กับข้าวอีกสองอย่าง แค่นี้ก็อิ่มอร่อยกันไปละ
คราวนี้เราไปดูสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจบนดอยแม่สลองกันดีกว่า
ไร่ชา 101 ดอยแม่สลอง
             ที่นี่จะปลุกชาอูหลงเป็นหลัก แต่ก็มีหลายชนิดนะครับ เดินทางจากที่พักขับรถเพียง10นาทีก็ถึงละ บรรยากาศร่มรื่น แปลงต้นชาเป็นทิวสวยงามเต็มดอย เราก็จะถ่ายรูปที่นี่กันแบบรัวๆ พี่โยกับคุณเมียผมก็ไปยืนเกาะป้ายจับจองเป็นเจ้าของกัน











ดอกชา สีขาวสวยๆ


          









                หลังจากที่ถ่ายรูปกันแบบ รัวๆ มั่วมั่งไม่มั่วมั่ง เราก็ไปชิมชากัน ที่นี่เค้าใช้ชิมฟรี 
              สาวน้อยนักชงชาของเราก็จะมีการอธิบาย วิธีการชงชา มีการปลุกชาให้ตื่นโดยการลวกน้ำร้อนทิ้งก่อนรอบนึง หลังจากนั้นก็ใส่น้ำร้อน แช่ใบชาไว้3นาที ไม่เกินนี้นะ ถ้านานกว่านี้จะทำให้ชาไม่อร่อย แล้วก็จะท้องผูก  รายละเอียดเยอะจริงๆ
 อย่านะ อย่าเพิ่งชิม ต้องรอซักพักนึง แล้วเปิดถ้วยชาที่คว่ำอยู่มาดมก่อน หอมชื่นใจ



เหมือนเราเป็น VIP. ยังไงยังงั้น แต่จริงๆแล้ว มีเราเป็นรอบสุดท้ายของวัน เพราะเรามากันช่วงเย็นละ
ดอยหมอก ดอกไม้ รีสอร์ท
           
เรามาถึงที่นี่บ่ายสอง อากาศเย็นสบาย10องศา บรรยากาศดีมาก 

การจัดสวนสวย เนินเขาเขียวขจี สลับกับดอกไม้เมืองหนาว

มุมขายของ สินค้าที่นี่ ก็คล้ายๆกับร้านค้าในตลาด พวกชา ถั่ว ผลไม้แห้ง

มุมชิมขนม ชิมชา
จะให้ทำไรอีกล่ะ นอกจากกินวนไปเรื่อยๆ

ที่นี่เค้าดัง ซาลาเปาใส้ผัก ใส้หมูแดง

คนท้องต้องกินถั่วเยอะๆ ลูกจะได้แข็งแรง โตไว


กินขนม ชมดอกไม้ สบายใจ
     พิพิธภัณธ์วีรชน อดีตทหารคณะชาติ
สถานที่แห่งนี้เสมือน หัวใจสำคัญของชาวบ้านบนดอยแม่สลอง ประวัติความเป็นมา ผมลงลิงค์ไว้ให้นะ เข้าไปอ่านได้เลย เรื่องมันยาว http://www.cots.go.th/travelview/detail.php?id=245 คร่าวๆ คือทหารจีนที่เป็นทหารคณะชาติ มาทำการสู้รบบริเวณนี้ แล้วไม่ได้กลับไปที่จีน จีงตั้งรกรางที่ดอยแม่สลองนี้ ซึ่งนายหลวงรัชกาลที่9 ทรงอนุญาติให้ทหารคณะชาติทำมาหากิน ตั้งบ้านเรือนบนดอยได้ และพระราชทานสัญชาติไทยให้ลูกหลานในลำดับต่อมา



ที่นี่แดดร้อนนิดนึงนะ แต่ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะอยู่





ซุ้มประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ใหญ่โตอลังการงานสร้างมากๆ

 อาคารจัดแสดง ใหญ่โตสวยงาม นึกว่าอยู่เมืองจีน


ภายในจัดแสดง ประวัติความเป็นมา ตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านบนดอยแม่สลอง รวมถึงประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ


นายพล ต่วน ซีเหวิน

ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ระหว่างสงคราม ที่นี่ก็จัดแสดงไว้อย่าสมบูรณ์






       สรุปให้นะ  ดอยแม่สลอง เดินทางสะดวก ถนนดีสวยงาม โค้งเยอะหน่อยแต่ไม่ยาก ขับง่าย ถ้ามาถึงช่วงก่อนเที่ยงจะดีมาก เราจะได้มีเวลาขับรถเที่ยวได้หลายที่ สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยก็อยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่อากาศเย็นตลอดปี ถ้าหน้าหนาวจะหนาวจัด ควรเตรียมเสื้อผ้ามาให้พอ ช่วงกลางวันอุณหภูมิสิบกว่า ตอนกลางคืนจะเหลือเลขตัวเดียว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น